คาเฟ่สไตล์เกาหลีประยุกต์

สำหรับใครที่เป็นสายเกาหลีเกาใจ ต้องได้รับอิทธิพลของประเทศเกาหลีมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่ฮิต ๆ ก็คงหนีไม่พ้นซีรีส์ที่ production ทำได้ดีจนดูกันข้ามวันข้ามคืน หรือเพลง K-pop ที่ศิลปินเก่งฉกาจทั้งร้อง เต้น แร็พ ให้เด็ก ๆ ลุกมาโคฟเวอร์กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ถ้าพูดถึงอาคารบ้านเรือนเราอาจจะไม่ได้เห็นแรงบันดาลใจในการหยิบยืมมาสร้างมากนัก ยกเว้นคาเฟ่ที่เริ่มตีตลาดบ้านเราบ้างแล้ว เนื้อหานี้เราจะพาด้อมสายเกาไปชมคาเฟ่ที่ผสมผสานความเป็นเกาหลีดั้งเดิมเข้ากับดีไซน์โมเดิร์นที่ทำได้ลงตัวมาฝากกันครับ

ออกแบบ : O Architect
ภาพถ่าย : Kahn Photo
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

วันนี้ขอพาไปไกลมายังเกาะเชจู ซึ่งใครที่อินกับซีรีส์โบราณของเกาหลี จะคุ้นเคยดีกับเกาะที่มักจะส่งนักโทษไปเนรเทศ เนื่องจากค่อนข้างทุรกันการ ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่ภาครัฐส่งเสริมให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามรอยหนังดัง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีคาเฟ่ ร้านอาหารผุดขึ้นมามากมาย หนึ่งในนั้นคือร้านชื่อ “Hangwonri Slow Slow” ทางตะวันออกของเกาะเชจู ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านในชนบทเก่าๆ ที่ดูเป็นกันเองมีวัสดุธรรมชาติเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นไม้ อิฐ หรือบล็อกช่องลม ส่วนหลังคาก็เป็นกระเบื้องลอนคล้ายกับหลังคาโบราณที่เรียกว่า “ฮันอก” แต่นำมาประยุกต์ใหม่ให้ดูทันสมัยด้วยเส้นสายที่เฉียบคมขึ้น

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

สถาปนิกได้ร่วมแบ่งปันแนวคิดกับเจ้าของบ้านที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเดินทางมากมาย เพื่อที่จะให้อาคารออกมาตอบโจทย์มากที่สุด คู่รักเจ้าของต้องการให้บรรยากาศของร้านเข้าถึงง่าย ต่างจากบ้านในเมืองที่จะเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญ ร้านนี้เป็นลักษณะของร้านอาหารผสมบ้านที่เจ้าของอาศัยอยู่ด้วย แต่บริเวณบ้านไม่มีรั้วรอบขอบชิด จึงวางพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดใกล้ริมถนนเพื่อให้เข้าถึงง่าย แต่มีกำแพงสีขาวขนาดใหญ่ขึ้นมาบังบันไดทางเดินที่จะขึ้นตรงไปยังคาเฟ่ และคานคอนกรีตสี่เหลี่ยมโปร่งๆ เพิ่มความเบาและสะดุดตาสไตล์โมเดิร์น ในส่วนบ้านจะดูทึบมากกว่าโซนร้านอาหารที่เต็มไปด้วยกระจกใส และมีองค์ประกอบที่แสดงถึงลักษณะเฉพาะของบ้านสไตล์ตะวันตกในเกาะเชจูในทศวรรษที่ 90 ผนังอิฐสีแดงที่ติดกันข้างหลังอย่างกลมกลืนกับบรรยากาศของเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดความรู้สึกสนิทสนมไม่แปลกแยก

ชั้นล่างคือร้านอาหาร slow slow ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งมาจากบ้านไร่ยุเกษตรกรรมดั้งเดิม แต่ประยุกต์ให้มีความร่วมสมัย เราจะเห็นชุดโต๊ะไม้รองรับการมาเยือนของลูกค้าเหมือนร้นทั่วไป แต่เพิ่มการตกแต่งผนังด้วยหิน มีหุ่นไล่กา เครื่องมือจักสาน พื้นที่ยกระดับขึ้นเหมือนบ้านโบราณที่ใช้เป็นมุมรับแขก หรือพื้นที่สำหรับเรียนรู้ ภายในมีโต๊ะเขียนหนังสือเตี้ยๆ เป็นพื้นที่ใช้สอยของผู้ชายในสังคมดั้งเดิม ประดับผนังด้วยภาพวาด ซึ่งถูกหยิบยืมมาเพื่อให้นำเสนอสไตล์ที่เจ้าของต้องการ

แม้จะมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเป็นชุด ๆ แต่ในร้านจะมีพื้นที่นั่งกับพื้น ซึ่งเป็นหนึ่งวัฒนธรรมของคนเกาหลีและเอเชีย (รวมถึงไทยด้วย) เมื่อคุณนั่งบนพื้น และเปิดหน้าต่างจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะเชจู รับสายลมก้อนใหญ่ที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน ภายในร้านอาหารที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่นเหมือนบ้าน

บนชั้น 2 จะเป็นคาเฟ่ชื่อ “Cafe Sueul” ซึ่งตกแต่งด้วยวัสดุและสีที่ให้ความบรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งด้วยภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวและของสะสมที่ซื้อมา สะท้อนอยู่ในตัวอาคารได้อย่างน่าสนใจ ในบางส่วนของอาคารมีองค์ประกอบของคอนกรีตดิบ ๆ เท่ ๆ และเติมลูกเล่นของแสง ทั้งแบบ direct light และ indirect light

ในส่วนของบ้านยังคงเน้นคอนเซ็ปของวัสดุและสีที่คุมโทนกับทั้งสองโซนด้านหน้า แต่มีความมินิมอลมากกว่า เพื่อลดความรู้สึกวุ่นวาย เหมาะกับการพักผ่อนอย่างสงบ หลังจากที่ทำงานเหนื่อยกับการต้อนรับผู้คนมาทั้งวัน