โฮมสเตย์ 6 ชั้น

Satori Nam Ngu เป็นโฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่บนถนน Nam Ngu ในใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ถนนสายนี้แคบๆ และค่อนข้างแออัด (เหมือนอีกหลาย ๆ สายในประเทศนี้) รอบ ๆ โครงการเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านค้า นอกจากนี้ยังมีบ้านทั้งอาคารเก่าสร้างใหม่และอาคารใหม่ การสร้างโฮมสเตย์บนพื้นที่ที่มีความกว้าง 6.5 เมตร และยาว 25 เมตร ให้ราบรื่นกลมกลืนไปกับด้านอื่น ๆ ที่ก่อสร้างใกล้เคียง ในขณะที่ต้องมีสไตล์และใช้งานได้ดีจึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายสถาปนิกค่อนข้างมาก หลังจากโครงการเรียบร้อยก็เกิดสถาปัตยกรรมที่เส้นสายเรียบง่ายแต่เป็นเอกลักษณ์ จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและเพื่อนร่วมชาติที่ทยอยมาใช้บริการที่พักอยู่ตลอด

ออกแบบ : Nemo Studio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

เพียงเติมกรอบสี่เหลี่ยมก็ดึงดูดตา

โรงแรมมี 6 ชั้น 15 ห้องพัก พื้นที่ทั้งหมด 999 ตารางเมตร อาคารนี้เป็นตึกเก่าซึ่งสถาปนิกไม่ได้ปรับเปลี่ยนส่วนโครงสร้างด้านหน้ามากนัก เพียงแต่เพิ่มส่วนใช้งานใหม่ ๆ เข้ามาเล็กน้อย ด้วยพิกัดตั้งอยู่บนถนนที่ค่อนข้างแคบมีรถและผู้คนผ่านไปมา สถาปนิกต้องจัดวางองค์ประกอบของอาคารให้ปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวขึ้น ด้วยการขยับพื้นที่หน้าอาคารชั้นล่างสุดขยับเข้ามาด้านในให้ห่างจากถนน แล้วกรุกรอบอาคารด้วยไม้ในมุมหักเฉียงเข้าด้านใน ส่วนชั้นอื่น ๆ จะทำกรอบที่ยื่นออกมาด้านหน้าอย่างระมัดระวัง เพื่อให้อยู่ในระดับความสูงที่ไม่มีปัญหาโดยมีกระถางต้นไม้กั้นระหว่างกรอบไม้กับคอนกรีตที่ว่านี้

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

จากระเบียงธรรมดาเป็นที่สำหรับพักผ่อนและชมวิวถนนในชั้นบน เมื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นกรอบสี่เหลี่ยมที่ห่อหุ้มด้วยงานไม้และคอนกรีตสลับกันยื่นออกมา กลับรู้สึกว่าอาคารมีความมิติดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ยังมีความกลมกลืนไปกับอาคารข้าง ๆ ไม่โดดเด้งออกมาจนแหวกแนว

ทางเข้าโรงแรมกรุกรอบอาคารด้วยไม้ ตกแต่งคล้าย ๆ ชานบ้านที่มีต้นไม้สวย ๆ คู่กับชุดโต๊ะเก้าอี้เหล็กที่นั่งกลางแจ้งเหมือนอยู่ในสวน รู้สึกได้ถึงความเป็นธรรมชาติและความดึดดูดให้อยากเดินเข้าไปข้างใน

สร้างบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน

Satori Nam Ngu Family มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ผู้มาเยือนมีพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบายอย่างแท้จริง จากประตูด้านหน้าเมื่อเปิดประตูกระจกเข้ามาจะเป็นล็อบบี้โล่ง ๆ ลึกเข้าไปวางชุดเก้าอี้ไม้และหวายสานที่เป็นมิตร การตกแต่งเน้นงานไม้ทำให้รู้สึกว่าได้รับการต้อนรับด้วยความเป็นมิตรและอบอุ่นเหมือนได้กลับบ้าน โทนสีหลัก ๆ ที่เลือกใช้คือ สีเทาของคอนกรีตเปลือยและสีขาวที่ให้อารมณ์เงียบสงัด ขรึม สุภาพ ทันสมัย ตัดกับสีแดงเข้มที่แสดงถึงพลัง ความร้อนแรง ยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ แทรกด้วยงานไม้ ใส่ลูกเล่นของแสงที่ตกแต่งเพิ่มมิติของแสงและเงาให้โดดเด่นขึ้นในหลาย ๆ จุด

บันไดไม้ไร้ลูกตั้งโปร่ง ๆ ติดตั้งให้ดูลอยตัวอย่างท้าทายอยู่บนผนัง นำทางผู้มาเยือนขึ้นสู่ชั้นสองสร้างให้ดูมีความเชื่อมต่อกับตู้ชั้นวางของที่บิวท์ติดผนังยาวหลายเมตร จำลองบรรยากาศของบ้านแบบโมเดิร์นเอาไว้อย่างน่าสนุก

เจาะช่องว่างกระจายแสงระบายอากาศ

ในโซนของพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้าจะมีช่องว่างขนาดใหญ่ที่เจาะขึ้นไปตรง ๆ เชื่อมต่อพื้นที่ในแนวตั้ง ซึ่งสถาปนิกสามารถใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้ได้หลากหลาย อาทิ เป็นจุดแบ่งอาคารออกเป็นสองส่วนซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสีแดง ส่วนต่างๆ ของช่องว่างนั้นโค้งเป็นรูปกรวย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายแสงและเอื้อต่อการระบายอากาศภายในอาคารได้มากขึ้น

ผนังของอาคารรอบ ๆ โถงสูงออกแบบให้มีกรอบกล่องไม้และคอนกรีตยื่นออกมา กล่องคอนกรีตจะเป็นกระถางขนาดใหญ่ปลูกต้นไม้ใบเขียวสดที่เติมเข้ามาเพื่อผู้เข้าพักได้กลิ่นอายความสดชื่นจากธรรมชาติ ส่วนกรอบไม้ที่ออกแบบให้เป็นกล่องมุมเฉียง ๆ คือช่องหน้าต่างที่มีพื้นที่นั่งเล่นมองวิวและความเคลื่อนไหวในส่วนกลาง ทำให้โครงการนี้มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร แต่การนั่งข้างหน้าต่างใสในชั้นสูง ๆ ขึ้นไปก็ดูจะน่าหวาดเสียวไม่ใช่น้อยเพราะไม่มีราวเหล็กกั้น

มี skylight ต้นไม้ และมุมมองกลางอาคาร

มุมมองจากด้านล่างเงยขึ้นข้างบนจะเห็นว่าหลังคามีช่องแสง skylight ขนาดใหญ่ เป็นช่องทางรับแสงธรรมชาติจากด้านบนส่องลงมาทะลุถึงชั้นล่าง และกระจายตกกระทบส่วนต่าง ๆ ภายในอาคารตามการเดินทางของแสงในแต่ละช่วงเวลา ทำให้เหมือนมีพื้นที่กลางแจ้งที่มีชีวิตชีวาภายใน

ไม่ลืมใส่จิตวิญญาณเวียดนามในทุกชั้น

แต่ละชั้นจะมีคอนเซ็ปในการตกแต่งต่าง ๆ กัน อย่างพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้จะเน้นเป็นการเจาะช่องว่างเป็นมุมโค้ง ตกแต่งโทนสีกลาง ๆ เรียบ ๆ โชว์เฟอร์นิเจอร์งานไม้ หวาย งานผ้า ถูกนำมาใช้เป็นจุดเด่นสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ ส่วนของพื้นปูกระเบื้องลายโบราณแบบฟรีสไตล์ไม่มีแพทเทิร์นในการวางลาย ทำให้ห้องดูสะดุดตา งานหัตถกรรมที่ตกแต่งในโครงการนี้ชวนระลึกถึงวัฒนธรรมการประดิษฐ์ของทางตอนเหนือของเวียดนาม ที่ให้กลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นแบบเวียดนามที่สัมผัสได้ทันที่ที่เดินเข้ามา

ห้องพักทุกประเภทรวมถึงห้องขนาดเล็กและห้องมาตรฐาน มีแสงสว่างเพียงพอด้วยการจัดช่องแสงขนาดใหญ่ ประตูกระจกบานสไลด์ที่เปิดออกได้กว้างนำบรรยากาศธรรมชาติและพรรณไม้ต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห้อง ชั้นบนสุดมีพื้นที่ส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้มาเยือนด้วยห้องชุดแบบ Duplex ความสูงสองชั้นมีช่องว่างและบันไดวนเหล็กส่วนตัวเชื่อมต่อชั้นบนและล่าง เหมาะสำหรับผู้เข้าพักที่มาเป็นครอบครัว