สตูดิโอในสวน

วิถีฟรีแลนซ์ที่หลาย ๆ คนคิดว่า จะนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ ใช้ห้องนั่งเล่น ห้องนอนเป็นพื้นที่สร้างสรรค์งานได้อย่างใจคิด บางส่วนเป็นจริงอย่างที่คิด สามารถใช้บ้านเป็นที่ทำงานได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่จริงเสมอไป ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนในบ้าน อาจไม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ง่าย ๆ ฟรีแลนซ์หลายท่านจึงออกไปใช้ Co-Working หรือร้านกาแฟเก๋ ๆ เป็นที่นั่งทำงาน แต่นั่นอาจยังไม่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง แถมยังต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการเดินทางอีกด้วย

ออกแบบ : Richard John Andrews
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ห้องทำงานในสวน

ที่ดินว่าง ๆ ข้างบ้านที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถูกเนรมิตเป็นห้องทำงานเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า ‘The Light Shed’ การแบ่งแยกพื้นที่ทำงานกับบ้านออกจากกันอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ไม่เพียงแค่เพิ่มความสะดวก ยังช่วยให้คนทำงานอยู่บ้านรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีความเป็นส่วนตัวและใช้ความคิดสร้างสรรค์ผลงานได้ดีขึ้นด้วย

โครงสร้างบ้านหลังน้อยคือไม้อัดเต็มแผ่น ผนังชั้นนอกเพิ่มความเก๋ไก๋และมีสไตล์ด้วยแผ่นไฟเบอร์กลาสสีดำ ซึ่งมีน้ำหนักเบาเป็นคุณสมบัติเด่น ประตูกระจกบานใหญ่ รวมถึงการเปิดช่องแสงกว้าง ๆ ช่วยขยายความปลอดโปร่งให้แก่พื้นที่ภายในมากกว่าเดิม

แม้จะมีพื้นที่จำกัดแต่สามารถจัดสรรฟังก์ชันได้อย่างครบครันเลยทีเดียว โซนแรกเป็นพื้นที่ว่าง ๆ วางโซฟานั่งเล่นตัวเล็ก ๆ ได้ ผนังตรงกันข้ามแขวนทีวีจอแบนไว้ เหตุผลที่ไม่ใช้ชั้นวางทีวีเพราะไม่อยากให้เกะกะพื้นที่สัญจร ซึ่งตำแหน่งอยู่ตรงกับประตูบ้านพอดี ส่วนผนังด้านในวางโต๊ะทำงานไม้สีอ่อน พร้อมกับเก้าอี้สีชมพูหวาน ๆ สีสันที่สดใสกระตุ้นความครีเอทีฟได้ในทุก ๆ วัน

ชั้นลอยติดผนังเป็นอีกไอเดียหนึ่งในการเพิ่มความคุ้มค่าให้แก่พื้นที่ใช้สอย ชั้นลอยตามแนวสูงของผนังแบ่งเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ ของประดับ รวมถึงกระถางต้นไม้เล็ก ๆ เพื่อสร้างความสดชื่นและความมีชีวิตในช่วงทำงาน

ผนังไม้อัด ยิ่งต้องระวังในเรื่องความชื้นภายในห้องน้ำ หลังคาโปร่งแสงแผ่นโพลีคาร์บอเนต ช่วยแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี แสงแดดจากภายนอกส่องกระจายถึงทุกตารางเมตร ได้ทั้งความสว่างในช่วงเวลากลางวัน กลางคืน และช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดความอับชื้นไปในตัว