บ้านสไตล์ทรอปิคอลพื้นถิ่น
บ้านแต่ละหลังจะมีหัวใจและจิตวิญญาณในการออกแบบที่แตกต่างกันไป บางหลังอาจใส่หัวใจของความเรียบง่ายและโปร่งเบาแบบอิสระชน อีกหลาย ๆ หลังเลือกที่จะส่งเสียงให้ดังเป็นจุดสนใจผ่านความหวือหวาของเส้นสายและวัสดุที่แปลกใหม่ ในขณะที่โครงการนี้สถาปนิกสกานต์ ชัยวัฒน์ วางแนวทางหลักของการออกแบบคือทัศนียภาพของภูเขา ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ดอยสุเทพที่เป็นฉากหลังมากกว่าตัวบ้าน บ่งบอกถึงความถ่อมตนแต่ในขณะเดียวกันก็ดูทรงคุณค่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบพื้นถิ่นประยุกต์ที่มองเห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าใจเต็มไปด้วยความสุข สงบ และเสน่ห์แห่งมนต์เมืองเหนือ
ออกแบบ : Skarn Chaiyawat
ภาพถ่าย : DOF Sky|Ground
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านหนองฮ่อ 17 เป็นบ้านสไตล์ทรอปิคอลพื้นถิ่นประยุกต์ ในตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของมีธุรกิจในกรุงเทพฯ หลังจากต้องที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงมานานเพราะงาน ก็ฝันว่าจะมีบ้านพักหลบจากความวุ่นวาย มาบำบัดร่างกายและจิตใจ เพลิดเพลินไปกับอากาศหนาวที่เย็นสบาย และใช้ชีวิตช้า ๆ แบบต๊ะต่อนยอน โดยโจทย์คือ บ้านจะต้องมีพื้นที่กลางแจ้งเพียงพอและเหมาะสำหรับแขกที่มาพักผ่อน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น จากจุดที่ตั้งมองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามใกล้ตีนเขา บ้านหลังนี้จึงถูกออกแบบทอดยาวจากเหนือจรดใต้ให้วิวได้ซึมซับเข้าไปทุกห้อง และมีสวนส่วนตัวและสระว่ายน้ำไว้ทางทิศตะวันตก บริเวณที่จอดรถมีสวนเล็กๆ ทางทิศตะวันออกของบ้าน ซึ่งทั้งหมดที่ว่านี้ถูกซ่อนเอาไว้หลังกำแพงบ้านสีขาว เปิดประตูถูกเปิดออกก็ค่อย ๆ มองเห็น
จากมุมมอง Bird eye view จะเห็นตัวบ้านอยู่ใจกลางที่ดินเรียงยาวเป็นหน้ากระดาน หลังคาจั่วมุงกระเบื้องดินขอแบบสถาปัตยกรรมล้านนายุคก่อน ด้วยความต้องการสานเชื่อมความต่างระหว่างยุคสมัย จึงเน้นนำวัสดุในท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้าน อาทิ กระเบื้องปูพื้นและหลังคา ที่ทำขึ้นโดยช่างฝีมือท้องถิ่นซึ่งมีเวิร์กช็อปอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ไม้ที่ใช้เป็นไม้สักรีไซเคิลมาจากบ้านเก่า มีมูลี่ไม้ไผ่ติดบังแดดยาวตามแนวอาคาร โทนสีของบ้านตัดกันระหว่างสีขาวกับ earth tone การเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างพิถีพิถันช่วยให้บ้านกลมกลืนกับสายลมเย็น ๆ แสง และบริบทโดยรอบ
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
บ้านได้รับการออกแบบในรูปทรง “I” และสถาปนิกได้สร้างพื้นที่เปิดโล่งในแต่ละด้านของ “I” โดยเฉพาะพื้นที่ให้บริการด้านตะวันออกที่หันไปทางถนนสายหลัก ด้านทิศตะวันตกหันไปทางภูเขา ทำให้เกิดพื้นที่ว่างหน้าประตูเป็นชุดๆ เพื่อให้ทุกห้องในบ้านสามารถมองเห็นวิวภูเขาได้ชัดเจน โดยมีสนามหญ้ากว้าง ๆ กลางแจ้งที่เป็นอิสระหลังบ้าน ไม่ว่าจะมองทางไหนก็ไม่ขาดจากสีเขียว
ชั้นแรกประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่ง พร้อมพื้นที่ครัวที่ปลายด้านหนึ่งและห้องรับแขกอีกด้านหนึ่ง ด้านหลังของบ้านประกอบด้วยประตูกระจกบานเฟี้ยมที่เปิดออกได้หมด ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างภายในภายนอกแนบสนิทขึ้น พร้อมสำหรับการออกมานั่งดึ่มด่ำบรรยากาศความสดชื่นเขียวขจี บนชั้นสองเป็นโซนส่วนตัวของบ้าน ประกอบด้วย ห้องนอน 2 ห้องเชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่งตรงกลาง
ด้านหน้าของอาคาร ติดม่านมู่ลี่ไม้ไผ่เป็นแนวยาวเพื่อป้องกันบ้านไม่ให้โดนแสงแดดหนึ่งชั้น จากนั้นจะมีโถงบันไดเป็นช่องว่างคั่นกลาง มีผนังที่ทำบานระแนงอีกหนึ่งชั้น บ้านจึงเปิดช่องรับแสงที่ละเอียดอ่อนเพื่อชมวิวที่สวยงามได้ ขณะเดียวกันก็ลดความร้อนและเอื้อให้สายลมพัดอ่อนๆ ไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของตัวบ้าน
แนวคิดในการออกแบบสิ่งแวดล้อมของบ้าน คือ การยอมรับและตอบสนองต่อสภาพอากาศในท้องถิ่น โดยไม่พยายามไปต่อสู้งัดข้อกับธรรมชาติ ในสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีทิศทางของแสงและลมประจำถิ่นเป็นโจทย์หลัก สถาปนิกจึงพยายามสร้างรูปแบบอาคาร เลือกวัสดุที่เหมาะสม และเปิดพื้นที่ใช้สอยของบ้านทั้งชั้นบนและชั้นล่างให้มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ เพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงกลางวัน
ความสุขสำหรับบางคนอาจเป็นสีสันของชีวิตที่โลดโผน แสงสีที่ดูไม่เคยหลับไหลในเมืองใหญ่ แต่เมื่อได้ลองมาฝังตัวอาศัยอยู่กับธรรมชาติ สัมผัสกลิ่นของลม แสงและเงาที่ตกกระทบจากการเดินเล่นของแสง เสียงแมลงที่กระซิบข้างหู และกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ปลายจมูก ผสมผสานการเดินทางผ่านผู้คนในสมัยโบราณและสมัยใหม่ในบรรยากาศของบ้านที่บรรจงสร้างสรรค์ คนที่ได้เข้ามาสัมผัสอาจจะหลงไหลไปกับความสงบภายในที่หาได้ยากในยุคที่เร่งรีบนี้ได้ไม่ยาก
แปลนบ้าน