ปรับปรุงบ้านเก่าเป็นออฟฟิศโมเดิร์น

ออฟฟิศ Thinking Space เริ่มต้นแรก ๆ ด้วยคนเพียงไม่กี่คน ต่อมาเมื่อรวบรวมความแข็งแกร่งและความไว้วางใจระหว่างพันธมิตร ในที่สุดวันหนึ่งเมล็ดที่หว่านไว้ก็ผลิบานและออกผล ทำให้ขนาดองค์กรใหญ่ขึ้น ก็คิดขยับขยายไปยังป้อมปราการที่ใหญ่กว่า แต่ดีไซเนอร์ไม่ได้สร้างใหม่ในย่านที่หรูหราแพงระยับ กลับเลือกเพียงแค่วางสำนักงานใหม่ไว้อย่างเงียบ ๆ ในเขตทาวน์เฮาส์เก่าที่เรียบง่าย นำมาปรับปรุงใหม่ทาสีด้วยผนังสีขาว แกะสลักบนคานคอนกรีตหน้าบ้าน ภายในตกแต่งโดยยังคงเค้าโครงอาคารเดิมบางส่วนที่ถูกกระเทาะให้เห็นตัวตนแบบดิบ ๆ ย้ำให้เห็นหัวใจเดิมที่ไม่เคยหายไประหว่างทาง และความบริบูรณ์ของจิตวิญญาณ ซึ่งต้องให้บ้านเป็นตัวอธิบาย

ออกแบบ : Thinking Space Design
ภาพถ่าย : Hey! Cheese
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บางครั้งโชคชะตาก็เข้ามาและหยุดไม่ได้ อย่างความรู้สึกรักแรกพบที่เกิดขึ้นกับเจ้าของสตูดิโอที่กำลังมองหาสถานที่ทำงานแห่งใหม่ แม้จะมีทางเลือกมากมายกลับชอบบ้านแบบเรียบง่าย ที่ตั้งอยู่ในตรอกแห่งนี้ที่ผ่านประสบการณ์เผชิญแดดฝนมาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว แต่ยังคงเสน่ห์บางอย่างซึ่งหากปรับปรุงก็จะพอจะมีภาพในใจว่าจะกลายเป็นออฟฟิศเท่ ๆ ได้อย่างไร เริ่มจากการรื้อโครงสร้างด้านหน้าให้เหลือแต่โครงคานคอนกรีตโล่ง ๆ ดิบ ๆ เป็นลานหน้าบ้าน ซึ่งกระบวนการผ่านลานบ้านและเข้าบ้านทุกวัน เจ้าของบอกว่า “เปรียบเสมือนการนำตัวตนและหวนคืนสู่แก่นแท้ของการออกแบบ”

เนื่องจากชั้นสองมีแสงธรรมชาติที่ดีกว่าชั้นแรก จึงมาคิดดูแล้วว่าโดยทั่วไปน่าจะทำงานบนชั้นสอง และชั้นล่างใช้เป็นแผนกต้อนรับและพื้นที่พูดคุยกับลูกค้า หาข้อมูล หรือพักระหว่างวัน ซึ่งจัดตกแต่งด้วยผนังสีขาวที่เรียบง่าย ทันสมัย เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นเป็นมิตรด้วยชุดโต๊ะโซฟา พรมนุ่มฟูด้านหน้าเหมือนบ้าน ซึ่งมาจากแนวความคิดที่ว่าสิ่งแวดล้อมจะส่งผลต่ออารมณ์ของผู้คน ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือทำให้พื้นที่ทำงานรู้สึก “สบาย” ทั้งในแง่ของสมาชิกที่ต้องใช้งานและผู้มาเยือนด้วย

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเหนือชุดโต๊ะชั้นล่าง มีบางส่วนของเพดานที่ถูกเจาะเป็นชองสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งถูกตัดโดยเจตนาตรงใจกลางบ้านเพื่อเป็นช่องรับแสง แล้วปูปิดช่องว่างด้วยแผ่นเหล็กลวดลายเรขาคณิต ช่วยให้อากาศในชั้นล่างลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบนได้ดี และยังมองเห็นระหว่างชั้นผ่านช่องว่างเล็ก ๆ เหนือช่องว่างนี้ตรงกับบันไดมีหลังคา skylight เมื่อแสงแดดส่องผ่านจากสกายไลท์ทะลุผ่านแผ่นเหล้กลงมาจะให้มิติของแสงเงา เฉกเหมือนดอกไม้ไฟ เมื่อถึงช่วงกลางคืนก็จะเหมือนดวงดาวที่ส่องแสงน่ามอง

“เราคิดว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการคือ “ปฏิสัมพันธ์” ” นี่คืออีแนวคิดหลักในการวางกรอบสำหรับออกแบบตกแต่งออฟฟิศของ Thinking Design เราจะเห็นที่ทำงานมากมายแบ่งแยกเป็นห้องเล็กห้องน้อย ต้องเคาะประตูก่อนเข้าไปเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ใช่กับที่นี่ ซึ่งเชื่อว่าพลังของการโต้ตอบระหว่างทำงานจากนาย A ไปนางสาว B ได้ง่าย ๆ จะทำให้งานลื่นไหลแบบไร้รอยต่อ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ความรู้สึกระหว่างการทำงานใกล้ชิดขึ้น ได้พูดคุยกันมากขึ้น พื้นที่ทำงานจึงพยายามใส่ความต่อเนื่องแบบหลวมๆ ทั้งในระนาบแนวตั้งและแนวนอนที่น่าสนใจ โดยไม่แบ่งห้องพนักงานหรือหัวหน้า (แม้ว่าจริงๆแล้วเป็นเพราะพื้นที่ไม่พอก็ตาม)

หลายๆจุดของบ้านที่ยังคงเค้าโครงเดิมของอาคารให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นผนังอิฐ โครงหลังคา บันได ที่ถูกจับมารวมเข้ากับเหล็กข้ออ้อย วัสดุมุงหลังคาโปร่งแสง ในโทนสีขาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ สีจืดๆ ยิ่งขับเน้นให้ของเก่าดูโดดเด่นเป็นตัวตนที่ยังทรงคุณค่า และร่วมกันจับมือเดินไปสู่อนาคตอย่างสง่างาม